คนเราเดี๋ยวนี้โมโหกันง่ายเหลือเกินนะครับ มีเรื่องโน่นเรื่องนี้มากระทบนิดหน่อยก็ว่าหัวร้อน ๆ โกรธบ่อย ๆ อารมณ์ขึ้นง่ายไม่ดีต่อตัวเองนะครับ
เพราะเมื่อเราโกรธหรือมีความรู้สึกด้านลบ จนยากจะควบคุมร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนในกลุ่มความเครียด (Stress hormones) ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ที่เร่งอัตราการเต้นของหัวใจ และการหายใจให้เร็วขึ้น เกิดการเกร็งของกล้ามเนื้อ และความดันโลหิตเพิ่มมากขึ้น เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเฉพาะหน้า ซึ่งเป็นกลไกในการป้องกันตัวของร่างกายรูปแบบหนึ่ง ทำให้ไปเพิ่มโอกาสการเกิดโรคทางหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular disease) และระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลง (Low Immunity) แล้วถ้าคุณระเบิดอารมณ์ออกไป มีงานวิจัยชี้ว่า จะเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดไปอุดตันสมอง และเลือดออกในสมองมากถึง 3 เท่า และยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเป็น 6 เท่า สำหรับผู้เป็นโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง แล้วคนที่โมโหบ่อย ๆ ยังมีแนวโน้มจะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แล้วความโกรธยังส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตด้วยนะครับ คนที่มีความเครียดเรื้อรังนาน ๆ มีการวิจัยว่าเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า โรควิตกกำลัง และโรคเครียด เพราะฉะนั้นถ้ามีอารมณ์โกรธ หรือรู้ตัวว่าเริ่มหัวร้อน ให้ลองทำวิธีนี้ครับ
- นับ 1-10 ช้า ๆ หายใจเข้าออกลึก ๆ เป็นวิธีคลาสสิคมาก แต่ได้ผลนะครับ มันช่วยชะลออารมณ์เราได้เป็นอย่างดี แล้วสติจะมา
- เดินออกจากสถานการณ์ หรือสถานที่ที่ทำให้โกรธ ถ้ารู้สึกว่าคุณกำลังจะระงับอารมณ์ไม่อยู่ เดินออกไปสูดอากาศด้านนอก หรือในที่โล่ง ให้ใจเย็นลง แล้วค่อยกลับไปเผชิญปัญหาอีกครั้ง
- พยายามมองข้ามเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง อย่าเอาเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเป็นอารมณ์ไปซะทุกเรื่อง ไม่มีใครทำอะไรได้ดั่งใจเราไปหมดทุกอย่างหรอกครับ อะไรที่สามารถให้อภัยได้ก็ควรให้อภัย แล้วจะดีต่อใจคุณเอง
- รู้เท่าทันอารมณ์โกรธของตัวเอง เรื่องนี้คงต้องฝึกบ่อย ๆ ครับ ฝึกจับอารมณ์ตัวเอง ถ้ารู้ว่ากำลังจะโกรธก็ให้หยุด แล้วเบี่ยงเบนอารมณ์ตัวเองไปในทางอื่น
- เอาใจเขาเอามาใส่ใจเรา บางทีความโกรธก็เกิดจากมุมมองของตัวเราเองคนเดียว ลองทำความเข้าใจกับคนอื่น ๆ และมองในมุมของคนอื่นดูบ้าง ว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนี้ คิดอย่างนี้ เมื่อคุณเข้าใจความโกรธก็จะลดลง
- ฝึกใจให้นิ่ง อดทนต่อสิ่งที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ เช่น รถติด ฝนตก อย่าพยายามหงุดหงิดและเครียดกับเรื่องเหล่านี้ เพราะเป็นเรื่องที่เรากำหนดไม่ได้ หาทางหนีทีไล่ หรือแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้เครียดจะดีกว่าครับ
- เป็นมืออาชีพเข้าไว้ ถ้าคุณโกรธ ฉุนเฉียวในที่ทำงาน พยายามนึกถึงความเป็นมืออาชีพไว้ครับ เมื่อมีปัญหาความผิดพลาด คุณต้องหาทางรับมืออย่างมืออาชีพ มีสติตลอด อย่าให้อารมณ์โกรธมาทำให้งานเสียหาย บั่นทอนความก้าวหน้า และทำให้คุณเสียเครดิตกับเพื่อนร่วมงาน
- เพิ่มพลังด้านบวกไว้เยอะ ๆ วันไหนอารมณ์ไม่ดีก็ลองเปลี่ยนให้เป็นวันดีของตัวเอง เช่น หาอาหารอร่อยรับประทาน นัดเพื่อนมาพูดคุยแก้เครียด ไปออกกำลังกายให้เหงื่อออกเพื่อดับอารมณ์โกรธ แล้วยังเพิ่มสารแห่งความสุขไว้หล่อเลี้ยงตัวเองได้อีก
ความโกรธ เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์เราครับ แต่ความสำคัญอยู่ที่อย่าให้อารมณ์โกรธมามีอิทธิพลกับชึวิตคุณได้ “โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า” ท่องไว้ในใจครับ